วันจันทร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

พลูด่าง

พลูด่าง 
ชื่อสามัญ Devil'sivy
ชื่ออวิทยาศสาตร์  Scimdapsus aureus
ตระกูล   ARACEAE

ลักษณะทั่วไป   เป็นไม้เลื้อยเขตร้อน ใบสีเขียวสด สลับเหลืองนวล

 พลูด่าง    หนึ่งในไม้มงคล ช่วยเสริมบารมีและคุ้มครองผู้อยู่อาศัยให้อยู่เย็นเป็นสุข

พลูด่าง   เป็นพืชที่มีรากเติบโตเร็วมาก เมื่อตัดมาใส่แจกัน ก็จะเจริญเติบโตต่อไปได้
การขยายพันธ์ุ ปักชำ


วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ดอกพุดซ้อน

พุดซ้อน
ชื่อสามัญ  Cape jasmine,Gardernia jasmineoides
ชื่อวิทยาศสาตร์  Gardernia augusta (L.) Merr.
สกุล  Rubiaceae

พุดซ้อน   หนึ่งในไม้มงคลเชื่อกันว่าไม่ว่าจะเป็นต้นพุดชนิดใดจะส่งผลให้มีคความเจริญ มั่นคง ช่วยเสริมบารมีและคุ้มครองผู้อยู่อาศัยให้อยู่เย็นเป็นสุข แต่ควรให้เป็นพุดสีขาว

พุดซ้อน  มีชื่ออื่นๆคือ พุดจีน พุดใหญ่ เก็ดถะหวา และอินถะหวา

ดอกพุดซ้อน  ดอกเป็นดอกเดี่ยว ดอกมีขาว มีกลิ่นหอมละมุน กลีบดอกซ้อนกันเป็นชั้นๆหรือเรียงเป็นชั้นเดียวกันแล้วแต่ชนิดพันธ์ุ

การปลูกพุดซ้อน  ต้องการแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง ชอบดินร่วนซุย ต้อองการน้ำปานกลาง

การขยายพันธ์ุ  การเพาะเมล็ด



เฟื่องฟ้าสีชมพู

เฟื่องฟ้าสีชมพู
ชื่อสามัญ  Paper fiower   ชื่อวิทยาศสาตร์ Bougainvillea spp.  ตระกูล NYCTAGINACEAE
ถิ่นกำเนิด  บราซิล
ลักษณะทั่วไป  เฟื่องฟ้าเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางประเภทเถาเลื้อย ลำต้นมีความยาวประมาณ 1-10เมตรมีสำเภาแข็งแรงเลื้อยไปได้ไกล ดอกออกเป็นช่อตามส่วนยอด มีกลีบดอกหรือใบประดับ 3 กลีบ ส่วนดอกจะมีดอกเล็กสีขาว กลีบดอกจะมีขนาด และสีสันแตกต่างกันตามสายพันธ์
คนไทยโบราณ   เชื่อว่าบ้านใดปลูกเฟื่องฟ้าประจำบ้านสามารถสร้างคุณค่าของชีวิตให้สูงขึ้น เพราะเฟื่องเป็นพรรณไม้ที่ได้รับสมญานามว่าเป็นราชินีแห่งไม้ประดับ
ขยายพันธ์ุ  โดยการปักชำ ตอน การเสียบกิ่ง





วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

บัวผัน-บัวเผื่อน




บัวผัน-บัวเผื่อน   Nymphaea  Capensis Thunb and Nymphaea stllata willclenow.

ลักษณะทั่วไป    บัวเป็นพืชล้มลุก ลำต้นมีทั้งที่เป็นเหง้า ไหล หรือหัว ใบเป็นใบเดี่ยว ชอบแสงแดดจัด    มิฉนั้นอาจไม่ออกดอกและอาจจะเน่าตาย อย่างน้อยควรได้รับแสงแดด

ดอก    บานตอนเช้า และกลางวัน  จะหุบในตอนเย็น ดอกมีหลายกลีบมีกลิ่นหอมลึกๆ

การขยายพันธ์ุ ขยายพันธ์ุง่ายและดูแลง่าย

นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ


วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

รอสตราต้า (H.rostrata)

รอสตราต้า (H.rostrata) 
ชื่อวิทยาศาสตร์  Heliconia rostryta
ถิ่นกำเนิด  มีในเขตร้อน ออกดอกได้ง่าในบ้านเรา

รอสตราต้า (H.rostrata)  เป็นพืชในสกุลเฮลิโคเนีย ปากนกแก้ว หรือมีชื่ออื่นเช่น Hanging Heliconia; Lobster claw , สร้อยกัทลี อยู่ในตระกุลเดียวกับ เบริ์ดแต่จะอยู่คนละวงศ์

รอสตราต้า(H.rostrata)  เป็นธรรมรักษาขนาดกลางสูง1.5-2เมตร ช่อดอกห้อยลง ใบประดับมีสีแดง ตอนปลายมีสีเหลืองลักษณะคล้ายปากนกแก้ว ออกดอกเป็นฤดู

ขยายพันธ์ุ  โดยการเพาะเมล็ด หรือแยกหน่อ หรือกอ ปลูกได้ทั้งในที่แดดและที่ร่ม  รับแดดได้เต็มวัน ถ้าปลูกในที่ร่มและความชื้นสูงจะได้ต้นที่สูงกว่าปลูกกลางแจ้ง

เขาแกะ

กล้วยไม้"เขาแกะ"

ชื่อวิทยาศสาตร์    Rhynchostylis  Coelestis

 "เขาแกะ"เป็นกล้วยไม้"สกุลช้าง" เรียกชื่อตามรูปลักษณ์ดอกที่ตั้งตรง อันแสนแปลกของมัน เขาแกะนับว่าเป็นกล้วยไม้ที่ทนร้อนได้อย่างสุดๆ

ลักษณะของช่อดอก ตั้งยาวขึ้นเขาแกะเป็นที่นิยมมากในหมู่นักพัฒนากล้วยไม้ทั้งไทยและนอก เขแกะถูกผสมกับกล้วยไม้หลากหลายสายพันธ์ุ

ดอก เป็นช่อตั้งตรงช่อดอกเป็นรูปทรงกระบอก มีดอกเบียดกันแน่น มีกลีบดอก5กลีบ โคลนดอกจะมีสีขาวขอบกลีบดอกจะขลิบเป็นสีม่วงคราม บางต้นอาจมีสีออกแดง หรือสีน้ำเงินดอกบานทนนานประมาณ2สัปดาห์ และมีกลิ่นหอม
ช่วงเวลาออกดอก คือฤดูร้อน ระหว่างเดือนเมษายนถึงเดืนกรกฎาคม พบในทุกภาคของไทยยกเว้นภาคใต้
"เขาแกะ"มีแหล่งกระจายพันธ์ุที่บริเวณป่าดิบแล้ง หรือป่าโปร่งผลัดใบในประเทศไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม


วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ช้างกระ

กล้วยไม้"ช้างกระ"
ชื่อวิทยาศาสตร์    Rhynchostylis gigantea

      กล้วยไม้ที่คนทั่วไปนิยมปลูก ส่วนใหญ่จะมีราคาไม่แพงมากนัก สามารถหาซื้อมาปลูกได้ไม่ยาก  แต่ก็มีบางชนิดเหมือนกันที่มีราคาสูงมากในกล้วยไม้บางชนิดที่ลำต้นขนาดใหญ่และมีดอกเยอะจะมีราคาแพงอย่าง "ช้างกระ"ที่มีพุ่มดอกหราสวยงามตระการตา

"ช้างกระ"  เป็นกล้วยไม้พันธุ์ป่าดอกเล็กๆสีขาวมีจุดม่วงอมชมพูแซมประปราย ดอกบานรวมกันเป็นช่อใหญ่แข็งแรง  ห้อยระย้าลงมาเป็นพวงสวยงาม ส่งกลิ่นหอมไกล ขนาดใบค่อนข้างใหญ่และหนา  ซ้อนกันสลับซ้ายขาว ต้นสมบูรณ์จะมีช่อดอกยาวประมาณ 20-40เซนติเมตร ดอกจะเรียงกันแน่น ใช้เวลาออกดอกปีละครั้ง แต่อยู่ทน

ลักษณะเด่นของ"ช้างกระ" จะเริ่งส่งกลิ่นหอมตอนสายๆและจะหอมตลบอบอวลในตอนใกล้ๆเที่ยง
"ช้างกระ "เป็นพันธ์ุป่าที่มีสีเอกลักษณ์  เพราะฉนั้นนักเลงกล้วยไม้ยังคงชอบที่จะเลี้ยงสายพันธ์ุดั้งเดิมนี้ เพราะออกดอกปีละครั้งจึงดูมีคา่ มีดอกหอม และมีสีสันที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว"

ส่วนใหญ่สิ่งที่คนเลี้ยงกล้วยไม้อยากรู้คือ จะออกดอกไหม อาจมีดอกยากหรือไม่มีเลย ซึ่งกล้วยไม้ป่ามักสวนทางกับคนเลี้ยงกล้วยไม้ที่อยากจะให้ออกดอก แต่ด้านเอกลักษณ์ของพันธ์ุป่าจะออกดอกปีละครั้ง คนเลี้ยงกล้วยไม้ป่าจึงต้องมีความอดทนที่จะเลี้ยงดูแลให้ดี

วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ดอกเทียนหยด

ต้นเทียนหยด

ชื่อสามัญ    Duranta,Golden Dewdrop Crepping sky Flower, Pigeon  Berry
ชื่อวิทยาศาสตร์     Duranta erecta
วงศ์     จัดอยู่ในวงศ์ผกากรอง

ลักษณะ  จัดเป็นไม้พุ่ม แตกกิ่งก้านสาขามากรอบๆลำต้น ตั้งแต่โคลนต้นถึงยอด ลักษณะรูปทรงไม่แน่นอน กิ่งมีลักษณะลู่ลง เป็นพันธ์ไม่กลางแจ้ง

ขยายพันธุ์  ขยายด้วยวิธีเพาะเมล็ด เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย ดินร่วนปนทราย ระบายน้ำได้ดีมีแสงแดดแบบเต็มวัน

ดอกเทียนหยด  มี2สายพันธุ์ คือ สีม่วงและสีขาว ดอกจะออกเป็นช่อกระจายตามซอกใบ และส่วนยอดของลำต้น โคลนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด ส่วนปลายแยกออกเป็นกลีบ 5 กลีบ ขนาดไม่เท่ากัน  ออกดอกได้ตลอดทั้งปี ออกดอกมากในช่วงฤดูฝน หรือประมาณเดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม


วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ชวนชมสีชมพู

ต้นชวนชม  
ชื่อสามัญ  Impala Lily Adenium
ชื่อวิทยาศาสตร์  Adenium obesun
ตระกูล  Apocynaceae

ลักษณะทั่วไป   ชวนชมเป็นพรรณไม้ยืนต้นอวบน้ำขนาดเล็ก ลำต้นมีความสูงประมาณ1-3เมตร ลำต้นอวบน้ำผิวเปลือกสีเขียวปนขาว ลำต้นมียางลำต้นบิดงอไปตามจังหวะแตกกิ่งก้านสาขาน้อยรูปทรงโปร่งใบแตกออกตามปลายของกิ่งก้าน มีกลีบดอก 5 กลีบ มีสีชมพูโคลนกลีบมีฐานรองดอกเป็นแฉกเล็กๆ ดอกบานความกว้างประมาณ 3-4 เซนติเมตร ความยาวประมาณ 5 เซนติเมตร

เป็นไม้มงคล   คนไทยโบลานเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นชวนชมไว้ประจำบ้านจะทำให้เกิดการชวนชม นิยมชมชอบเพราะชวนชมเป็นไม้มงคลนาม และทำให้เกิดเสน่ห์แห่งการดึงดูดตาดึงดูดใจชวนมองยิ่งนัก

การดูแลรักษา  ชวนชมต้องการแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง ต้องการน้ำปริมาณน้อย ทนต่อความแห้งแล้งให้น้ำ 7-10วันต่อครั้ง

การขยายพันธ์ุ    โดยการปักชำ การตอน ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรค และศัตรู เพราะเป็นไม้ที่มีความทนต่อสภาพธรรมชาติได้ดี  

วาสนามาแล้ว

ต้นวาสนา 
ชื่อสามัญ     cornstalk plant
ชื่อวิทยาศาสตร์  Dracaena Fragrans Massangeana
ถิ่นกำเนิด     เอธิโอเปีย   ไรจีเรียกินี

ลักษณะ    วาสนาเป็นไม้ที่มีขนาดใหญ่ สูงได้ถึง5-6เมตร ชอบแสงแดดจัด เป็นที่นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับเนื่องจากรูปทรงที่สวยแปลกตาและคงทนอยู่ได้ในที่มีแสงสว่างน้อย พื้นใบสีเขียวมีลายสีเหลื่องพาดกลางไปตามความยาวของใบ ใบอ่อนจะแตกตรงส่วนยอดของต้น ดอกออกเป็นช่อสีเหลือง กลิ่นหอม 

การขยายพันธ์ุ   โดยการใช้ปัก ชำยอด หรือตัดลำต้นเป็นท่อนๆ ยาวประมาณ 6-8 นิ้ว ตั้งใส่ถาดตื้นๆหล่อน้ำเลี้ยงไว้จนแตกหน่อแตกใบ

การปลูก   ขึ้นได้ในดินทุกชนิด

การดูแลรักษา  เป็นพืชที่ชอบแดดจัด แต่ก็อยู่ในร่มรำไรได้ รดน้ำให้ดินชุ่มน้ำแต่อย่าให้แฉะ


วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

การอยู่ร่วมกัน

สวัสดีค่ะ  ชื่ออมรภัศทร์  นามโคต  บัญชี เศรษฐศาสตร์ค่ะ 

สังคมทุกวันนี้อยู่ยากค่ะ  บางที  การใช้ชีวิตก็ต้องมีการยืดหยุ่นค่ะ  ผิดได้แต่ต้องให้เป็นครู พยายามอย่าใช้ครูคนเดิมบ่อยค่ะ  จำครูคนเดิมให้ได้ิ  เปิดใจให้กว้างค่ะ ยอมรับแนวคิดใหม่ๆ อุปสรรคและความผิดพลาด เป็นโอกาสของการคิดหาหนทางใหม่ๆ ขยายความรู้ให้กว้างขึ้น   ไม่เอาตัวเองเป็นมาตรฐานของคนอื่น   บางที่ คำพวกนี้ก็ช่วยอะไรไม่ได้ค่ะ เวลาที่ท้อ เฮ้ย!ก็มนุษย์นี่ค่ะ วันหนึ่งก็มีหลายอารมณ์ค่ะ  แต่พอสติมาก็  นะคนเรา  "มนุษย์เ็ป็นสิ่งมหัจรรของโลก ทุกสิ่งเกิดขึ้นเพราะมนุษย์ โอเคร ฉันต้องไปต่อ ถ้าทำประโยชน์ของตัวเองไม่ได้ก็ทำประโยชน์ให้คนอื่นแล้วกัน" เข้าใจโลกแบบงง  สู้ๆค่ะ